เมล็ดพริกหัวเรือ 100 เมล็ด [10 เเถม 1 คละได้]
เมล็ดพริกหัวเรือ พันธุ์หัวเรือ ศก.25 เป็นพริกที่ให้ผลผลิตพริกสดและผลผลิตพริกแห้งสูงกว่าสายพันธุ์อื่น ผลสดมีสีแดงปนส้มเล็กน้อย ผลตรง ผลยาว 7 เซนติเมตร ผลกว้าง 0.95 เซนติเมตร ผลเล็ก เรียวกว่าพันธุ์หัวเรือ ศก.13 เล็กน้อย ความสูงและเส้นผ่าศูนย์กลาง 80-90 เซนติเมตร การเก็บเกี่ยวผลสุก 90 วันหลังปลูก พริกขี้หนูพันธุ์นี้ ปลูกได้ดีในดินแทบทุกชนิดที่มีความอุดมสมบูรณ์ แต่จะต้องมีแหล่งน้ำที่ดีตลอดทั้งปี
“พริกขี้หนูหัวเรือ” มีการขยายพื้นที่ปลูกกันมากที่สุด โดยเฉพาะในเขตจังหวัดอุบลราชธานี แต่ที่ผ่านมาเกษตรกรที่ปลูกพริกสายพันธุ์นี้พบปัญหาเรื่องผลผลิตต่อไร่ต่ำลงเรื่อยๆ เนื่องจากมีการเก็บเมล็ดพันธุ์เองและไม่มีการคัดเลือกสายพันธุ์
หลังจากที่ศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษ ใช้เวลาประมาณ 7 ปี ในการคัดเลือกพันธุ์พริกหัวเรือแบบสายพันธุ์บริสุทธิ์ สุดท้าย ได้ทดสอบสายพันธุ์ในไร่ของเกษตรกร ได้พริกขี้หนูหัวเรือพันธุ์ใหม่ที่ให้ผลผลิตสูงกว่าพันธุ์ที่เกษตรกรเก็บพันธุ์เองถึง 14 เปอร์เซ็นต์ ขนาดของทรงพุ่มเล็กกะทัดรัด มีความสูงและเส้นผ่าศูนย์กลางของต้นประมาณ 80-90 เซนติเมตร เท่านั้น มีอายุการเก็บเกี่ยวเร็ว คือ 90 วัน หลังจากย้ายปลูกลงแปลง ที่สำคัญเป็นพริกที่มีขนาดผลสม่ำเสมอและให้ผลผลิตดกมาก มีความยาวของผลเฉลี่ย 7-8 เซนติเมตร จัดเป็นพริกขี้หนูผลใหญ่ที่มี
ความเผ็ดมาก (คนอีสานเคยเล่าติดตลกว่า กินส้มตำใส่พริกหัวเรือเพียงผลเดียว กินเช้าเผ็ดถึงบ่าย)
การเตรียมดิน :
การเตรียมแปลงดินปลูก ให้ทำการไถตากดินทิ้งไว้ประมาณ 10 วัน จากนั้นใช้ปุ๋ยคอกวัวโรยไว้ให้ทั่วพื้นที่ แล้วทำการไถกลบ จากนั้นเมื่อฝนตกก็ทำการไถแปรดินไว้ ส่วนการเตรียมดินปลูกในเขตพื้นที่อาศัยน้ำฝน ต้องเลือกพื้นที่
ที่สามารถระบายน้ำได้ดี
การเตรียมเมล็ดพันธุ์และการเพาะกล้า :
ก่อนเพาะกล้า ควรนำเมล็ดพันธุ์แช่น้ำไว้ 1 คืน แล้วใช้ผ้าขาวบางห่อเมล็ดเก็บไว้ในที่ชุ่มชื้น 2-3 วัน จึงนำไปเพาะในแปลงหรือกระบะเพาะต่อไป เมื่อต้นกล้าพริกอายุ 30 วัน หรือมีใบจริงประมาณ 5 ใบ ให้ย้ายกล้าพริกลงแปลงปลูกที่เตรียมไว้โดยใช้ระยะการปลูก ดังนี้
การปลูก :
ระยะการปลูกพริก ระหว่างแถวห่างกัน 70 เซนติเมตร ระยะห่างระหว่างต้น 50 เซนติเมตร แล้วทำการวางระยะลงปลูกได้เลย แต่ละจุดให้นำไม้เสียบลง 1 หลุมต่อกล้าพริก 3 ต้น
การดูแล :
การให้น้ำ พริกเป็นพืชที่ต้องการน้ำอย่างเพียงพอและสม่ำเสมอในช่วงแรกของการเจริญเติบโต ซึ่งดินควรมีความชุ่มชื้นพอดีอย่าให้เปียกหรือแฉะเกินไป เพราะจะทำให้ต้นพริกเหี่ยวตายได้ ในช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตควรลดการให้น้ำ เพื่อพริกจะได้มีคุณภาพที่ดี ผลผลิตงาม และสีของผลก็จะสวยส่วนกรณีดินแห้งเกินไป และไม่อาจให้น้ำได้ก็ควรใช้วัสดุคลุมดิน เช่น ฟางข้าว เปลือกถั่ว เพื่อให้ดินมีความชุ่มชื้น
การใส่ปุ๋ย : พริกเป็นพืชที่มีอายุการเก็บเกี่ยวผลค่อนข้างยาวนาน ปุ๋ยที่ใช้ควรเป็นปุ๋ยที่มีธาตุอาหารครบ เช่น ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ควรใส่ในอัตรา 25-50 กิโลกรัมต่อไร่ เพื่อเป็นการช่วยเสริมการเจริญเติบโตของพริก นอกจากนี้ควรฉีดพ่นน้ำหมักทางใบในแปลงพริกบ้าง เพื่อป้องกันแมลง หนอน และเพลี้ย โดยใช้สูตรน้ำหมักป้องกันศัตรูพริก คือ ใช้ใบสะเดา 1 กิโลกรัม ผสมกับน้ำ 1 ลิตรแล้วทำการขยี้ใบสะเดา และแช่ทิ้งไว้ 1 คืน ก็สามารถนำไปใช้ได้ โดยกรองเอาน้ำหมักสะเดาในอัตราการ 1 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำ 20 ลิตร นำไปฉีดพ่นแปลงพริก ในช่วงเวลาเย็น
การเก็บเกี่ยว :
พริกจะออกดอกหลังจากย้ายปลูกแล้วประมาณ 60-70 วัน และจะเริ่มเก็บเกี่ยวผลสุกได้เมื่อพริกมีอายุประมาณ
90-100 วัน ซึ่งจะสามารถเก็บเกี่ยวได้อีกทุก ๆ 5-7 วันหรือเดือนละ 5-6 รุ่นถ้ามีการบำรุงรักษาดีและให้น้ำอย่างเพียงพอ
(สินค้าส่งจาก จ.สุโขทัย)
1. ส่งลงทะเบียน (ไปรษณีย์ไทย) 5-7 วัน
2. ส่ง EMS (ไปรษณีย์ไทย) 1-2 วัน
3. ส่งด่วนเคอรี่ เก็บเงินปลายทาง 2-3 วัน
ร้านหยุดเสาร์-อาทิตย์ นักขัตฤกษ์
จัดส่ง จันทร์-ศุกร์ ตัดรอบ 5 โมงเย็น
สั่งก่อน 5 โมงเย็นจัดส่งวันถัดไป
สั่งหลัง 5 โมงเย็นจัดส่งอีก 2 วันถัดไป
สั่งวันศุกร์หลัง 5 โมงเย็นจัดส่งวันจันทร์
ร้านตามสินค้าให้เฉพาะกรณีขนส่งมีปัญหาเท่านั้น
กรณีบ้านปิดไม่มีผู้รับ เป็นความรับผิดชอบของลูกค้ากรุณาติดต่อรับของที่ไปรษณีย์ปลายทางค่ะ
#เมล็ด10แถม1 #เมล็ดผัก #เมล็ดพันธ์ผัก #เม็ดผัก #เม็ดพันธ์ผัก #เม็ดพันธ์ผัก #เมล็ดคะน้าฮ่องกง #ผักขี้หูด #แคนตาลูปซันเลดี้ #พีชมอส #มะละกอฮอลแลนด์ #เมล็ดแตงไทย #เมล็ดแคนตาลูป #เมล็ดเมล่อน #เมล็ดพริกจินดา #เมล็ดพริกหัวเรื่อ #เมล็ดพริกยอดสน